ศูนย์รวมพระธรรมเทศนา หลวงพ่อสมภพ โชติปัญโญ

       ศิษยานุศิษย์ได้จัดทำเว็บนี้ขึ้นมาโดยมิได้มีผู้แนะนำแต่ประการใดเพียงแต่มีเจตนาบริสุทธิ์ และศัทธาต่อปฏิปทาหลวงพ่อสมภพ โชติปัญโญ ทีหลวงพ่อ ออกบวชด้วยอุดมการณ์และศัทธาอันบริสุทธิ์ต่อพระพุทธศาสนา ทิ้งอนาคตเป็นฆราวาสเงินเดือนหลายหมื่นบาท (เมื่อ๔๐ปีที่แล้ว)  ท่านทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ส่วนตัวซื้อที่ดินสร้างวัดเอง ปลูกต้นไม้เป็นล้านต้นเอง และทำงานหนักกับงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา เทศนาสั่งสอนกับผู้ที่สนใจทั้งในและต่างประเทศ จนท่านต้องป่วยจากการใช้สังขารทุ่มเททำงานหนัก เส้นเลือดในสมองแตก พิการครึ่งซีก แต่กระนั้นหลวงพ่อก็ยังเดินทางจาริกไปเทศนาสั่งสอนแก่ศิษยานุศิษย์ มิได้หยุดหย่อน จนบัดนี้แม้กระทั่งเสียงของหลวงพ่อก็เหือดแห้ง หลวงพ่อก็ยังจาริกหอบสังขารอันทรุดโทรมไปปรากฏตัวให้แก่ศิษยานุศิษย์ได้ชื่นชม แม้จะเทศน์ไม่ได้ แต่ก็ถือว่า สิ่งที่ท่านได้เห็นนี้แหละคือธรรมะที่หลวงพ่อสอน “ว่าอย่าได้ประมาทในธรรม นี่แหละสังขารไม่เที่ยง “ ด้วยความเมตตาสงสาร  เพื่อนสพรพมจารี    ขีวิตที่เหลือจากนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น

      อนึ่งพระธรรมเทศนาหลวงพ่อสมภพ โชติปัญโญ ได้สอนแนวทางเน้นหนักไปที่ จรณะ ๑๕ จำแนกแจกแจงเครื่องอยู่แห่งจิตด้วยอานาปานสติกรรมฐาน หลวงพ่อได้อธิบายจำแนกแยกแยะไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เหมือนดั่งชายฝั่งแม่น้ำมหานที อันค่อยๆลาดลึกลงไป ฟังเถิดจงฟัง จงฟังให้รุ่งเรืองเถิด แล้วน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ อันจะเกิดประโยชน์แก่ ตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติบ้านเมือง ท้ายที่สุดให้ถึงซึ่งความดับทุกข์อันเป็นอมตะธรรมเข้าถึงพระนิพพาน ตามองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เทอญ..

ปลูกดงปลูกป่า คือ ปลูกฟ้าปลูกดิน

ขอเชิญร่วมสร้าง “ภูเขาตุงคะวารีศรีวนาลัย”

ปลูกศีลปลูกธรรม คือ ค้ำจุนโลกทั้งโลกให้ร่มเย็น

กรชชาโต สพฺพชีโว  สรรพชีพทั้งมวลล้วนเกิดจากน้ำ ภูเขาลูกนี้จึงมีชื่อว่า ตุงควารีศสรีวนาลัย เสมือนหนึ่งขุมทรัพย์กลางทะเลทรายพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ OASIS แห่งอีสาณ

               ไตรสิกขาทลามลตาราม เป็นอารามสวนป่าอันร่มรื่นเป็นที่พำนักอาศัยของพระสงฆ์ ผู้ใฝ่ศึกษาแบบดั้งเดิม คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ตามแบบฉบับของสมณะพระสงฆ์ ในสมัยพุทธกาล ไตรสิกขาทลามลตาราม ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆ สามสิบกว่าหลังคาเรื่อน มีชื่อว่า บ้านฝาง เขตตำบลแพด อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร ไกลห่างจากตัวจังหวัดร้อยกว่ากิโลเมตร

               จากผืนดิน ถิ่นที่แห้งแล้งลำเค็ญ กลับกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งจิตใจ จะมีพระภิกษุสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน วนเวียนกันไปมาพำนักพักศึกษา ถึงจะลำบาก กันดารแห้งแล้ง ก็ไม่ขาดแคลนผู้ใผ่ธรรม โดยมีพระอาจารย์สมภพ โชติปญฺโญ เป็นประธานสงฆ์ ผู้คอยหล่อเลี้ยงธรรมแก่ผู้ใฝ่ธรรมเป็นกัลยาณมิตร เป็น สิปปะทายก ผู้ผดุงความเป็น ทีปธาโร บุคคลแนะนำพร่ำสอน ชักชวน วิงวอน แจกของส่องตะเกียง อยู่ตรงนั้น ท่ามกลางสภาพแห้งแล้งแห่งภาคอีสาณ จึงกลายเป็น ทะลามะละตาราม อารามที่ทรงไว้ซึ่งความสดชื่น เพื่อผู้บำเพ็ญไตรสิกขา เพราะเหตุนี้จึงได้มี เนมิตติกนามว่า ไตรสิกขาทลามลตาราม สิ่งเหล่านี้ มีองค์ประกอบอยู่สามอย่างด้วยกัน คือ แมกไม้ สายน้ำ และขุนเขา

ความเป็นมาของภูเขาตุงควารีลูกนี้เกิดมีขึ้นเพราะเหตุปัจจัยหลายอย่างหลายประการเป็น ตำนานแห่งความอาภัพอันน่าชื่นใจ หากเป็นไปได้ก็น่าเล่าขานสู่กันฟัง จะได้เป็นเครื่องส่งเสริมกุศลธรรมะฉันทะ อันเป็น ทุลลภธรรมอันหายากในโลก ดังถ้อยคำที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า…

กุสลธมฺมฉนฺโท ทุลฺลโภ โลกสฺมิ ความเป็นผู้พอใจฝักใฝ่ในกุศลธรรม ความจริง ความดีงาม หาได้ยากในโลก

สุขสฺเสตํ อธิวจนํ ปุญญานํ บุญนี้เป็นชื่อแห่งความสุข

         นี้คือภาพแห่งบุญที่เราทุกคนร่วมกันสร้าง   เป็นแนวทางความดีงาม ความสุขสันต์

คนละเล็ก คนละน้อย ร้อยผูกพันธ์                   หลอมรวมกันเป็นภูเขามหาเจดีย์  ศรีบวร

เป็นแมกไม้ ที่ฉ่ำชื่นในผืนป่า                                          เป็นธาราที่เจิ่งขังทั้งเย็นใส

เป็นเสียงสัตว์เริงร้องก้องพงไพร        เป็นแหล่งให้ผองมวลมิตรใกล้ชิดธรรม (ธรรมชาติ)

เป็นสถานลานประดิษฐ์พระบรมสาริกธาตุ เป็นแหล่งหลักป่าวประกาศพุทธศาสน์ ให้สดใส

เป็นความงาม แห่งจาคะธรรมล้ำวิไล              ด้วยสันทรีแห่งดวงใจ ที่ใฝ่รักษ์ร้อยถักทอ

เป็นภาพฝันอันละออ                                                          หล่อเลี้ยงใจผู้ใผ่ธรรม

เป็นขุนเขาเขียวดั่งเมฆรุจิเรขวารีรักษ์           สร้างศักดิ์ศรีสะอาดเอี่ยมเปี่ยมสระโบกขรณี

ทอดนทีอุทยานอันดาษดา                                   ดารดาษด้วยแนวไพรใหญ่ผืนกว้าง

เพียงเยื้องย่างได้ยากเย็นเห็นคุณค่า

               โอ!ไตรสิกขาทลามลตา                        อารามอันร่มรื่นชื่นดวงหทัย

งามแมกไม้งามผืนดินหินทุกก้อนสะท้อนภาพ      ซึ้งกำซาบสมภพประสบสมัย

บุญบันดาลเป็นแดนบุญอบอุ่นใจ                         บุญเสริมให้ร่มเย็นสุขอยู่ทุกวัน

เปลี่ยนชีวิตเป็นชีวิตจิตสงบ                  สุขสมภพดั่งภาพพจน์บทสร้างสรรค์

เป็นนักปราชญ์ฉลาดล้ำความสำคัญ                    เป็นดวงจันทร์อันกระจ่างอยู่กลางใจ

เป็นแหล่งธรรมศีลทานนานนับเนื่อง                     เป็นปราดเปรื่องปลูกใจได้เกื้อหนุน

เป็นแดนดงสงเคราะห์เกื้อกิจเจือจุน                     เป็นสระบุญล้างบาปอาบใจชน

จากกันดารลำเค็ญเป็นสระน้ำ                             เย็นชุ่มฉ่ำชีพชุ่มชื่นผืนป่าใหญ่

สร้อยเสียงสัตว์ชัดเจนจำความปลอดภัย              กังวาลไกลไพรพฤกษ์สำนึกคุณ

คือความงามพิสุทธิ์แห่งพุทธศาสน์                       คือเพื่อชาติสงบสว่างสร้างกุศล

คือของขวัญจรรโลงใจให้โลกยล                           คือความพ้นทุกข์ได้แน่นอน

หล่อหลอมรวมร่วมชาวโลกวิโมกข์มิ่ง                   สร้างความจริงให้ปรากฎบทคำสอน

เกิดภูเขาตุงควารีศรีบวร                                      บุญสะท้อนสารทิศชีวิตมวล

ดุจดึงฟ้าดูดฝนจนดินชื้น                                     ดั่งวันคืนโมทนามาครบถ้วน

ประดับธรรมประดับไทยไว้ถูกควร                        ให้โลกหวนเห็นทุกข์เมื่อเม็ดเหงื่องาน

เชิญชาวชนเชื่อมศรัทธามหากุศล                        แผ่นดินดลผลศักดิ์สิทธิ์สถิตย์สถาน

จากแห้งแล้งลำเค็ญเห็นกันดาร                           สร้างวิมานมนุษย์แห่งพุทธธรรม

                                                                   ด้วยเสน่หา แห่งเมตตาธรรม

                                                                   คณะสงฆ์ ไตรสิกขาทลามลตาราม

ปลูกป่าขุดสระน้ำก่อภูเขาขึ้นกอดฟ้า

อบอุ่นใจภายใต้อ้อมอกอันอบอุ่น

ที่บุญโอบอ้อมพร้อมแล้วจึงกระทำ

นตฺถิ จิตเต ปสนฺนมฺหิ อปฺปกานามทกฺขิณา

เมื่อจิตมีความเลื่อมใสแล้วบุญนั้นจะชื่อว่าเล็กน้อยนั้นไม่มี

(ย่อมมีคุณค่ายิ่งใหญ่อยู่เสมอ)

ที่มาของโครงการสร้างภูเขาตุงควารี

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ทางคณะสงฆ์ ไตรสิกขาฯ ได้รับพระบรมสารีริกธาตุ จากมหาเถระที่ไปจำพรรษาอยู่ที่ประเทศอินเดีย โดยท่านได้รับมอบมาจากเมืองกุสินารา สถานที่พุทธปรินิพพาน โดยท่านเหล่านั้นเกิดเยื่อใยในเมตตาธรรม ต่อการดำรงอยู่ และการดำเนินไปในบทบาทแห่งพระศาสนา ในอัตภาพของท่านพระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ เนื่องด้วยท่านเป็นคนพิการอัมพาตครึ่งซีก ยังเคลื่อนไหวหล่อเลี้ยงธรรมแก่สังคม ผดุงความเป็นธรรม จรรโลงพระพุทธศาสนา เพื่อพัฒนาคุณภาพของความเป็นมนุษย์ไม่ได้หยุดหย่อน ด้วยเสน่หาแห่งเมตตาธรรม หวังอนุเคราะห์ เกื้อกูลต่อกลไก แห่งอายุสังขาร อันแสนจะทรุดโทรม ของเพื่อนสพรหมจารีอันเป็นที่รัก จึงได้นำพระบรมสารีริกธาตุ มามอบถวายให้ท่าน พระบรมสารีริกธาตุนี้เอง เป็นที่มาแห่งโครงการ “ตุงคะวารี ศรีวนาลัย ไตรสิกขาทลามลตาราม” โดยท่านอาจารย์ปรารภเสมอว่า เราควรทำเจดีย์ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าชอบใจที่สุด อะไรหรือ? ที่พระองค์ชอบที่สุด สิ่งนั้น คือ แมกไม้ สายน้ำ ขุนเขา ยํฐานํ ช เนติ อิฏฐกาทีหิ เจตพฺพํ ตสฺมา ตํฐานํ เจติ ยติ สิ่งที่ชนทั้งหลายก่อสร้างขึ้นสำหรับบรรจุสิ่งที่เคารพนับถือ สิ่งเหล่านั้น นั่นแหละนับเนื่องเข้าในเจดีย์ เราไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำให้งดงามอลังการใหญ่โต ให้สิ้นเปลืองทรัพย์สมบัติของมหาชนในยามนี้ มากด้วยมูลค่า แต่หาคุณค่าไม่ค่อยมี เราน่าจะทำให้มีคุณค่ามากไปด้วยประโยชน์ เกื้อกูลแก่มวลสรรพชีพ เกื้อกูลต่อระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม ให้สมบูรณ์พร้อมทั้งแมกไม้ สายน้ำ ขุนเขา อันเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ ชอบมากๆ ชนิดที่อุทานออกมา วันที่พระโพธิสัตว์ เดินทางถึงฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม วันนั้นก่อนตรัสรู้เพียงหนึ่งวัน พระองค์ทรงอุทานออกมาด้วยปราโมทย์ว่า ระมนีโย วต ภูมิภาโค ปาสาทิโก จ วนสณฺโฑ นที จ  สนฺทติ ฯลฯ  อลํ วติทฺ กุลปุ ตฺตสฺส  ปธานตฺถิกสฺส ปธานาญาติ    โอหนอ! ภูมิภาคนี้น่ารื่นรมใจจริงหนอ มีราวป่าอันน่าเพลินใจ ไพรสณอันน่าเลื่อมใส มีสายน้ำ ไหลมาไม่ขายสาย ใสเย็นจืดสนิท มีท่าอันราบเรียบเป็นที่น่าเพลินใจ ทั้งโคจารคาม สำหรับถิกขาจาร บิณฑบาต ก็มีอยู่โดยรอบ ณ ที่ตรงนี้ สมควรแท้นั่นเทียว! ที่จะตั้งความเพียรของกุลบุตร ผู้ต้องการด้วยความเพียร ราชกุมาร! เราได้นั่งพักลง ณ ที่ตรงนั้นเอง ด้วยคิดว่า ที่ตรงนี้สมควรแล้วที่จะตั้งความเพียรของเรา ผู้ปรารถนาความเพียร …เมื่อธรรมชาติถึงพร้อมจิตก็น้อมเข้าสู่ธรรม

               เจดีย์ของเราควรจะเป็นเช่นนี้ เกื้อกูลแก่โลก และเกื้อกูลแก่อาริยญายะธรรม ชนิดที่รำพึงออกมาด้วยปราโมทย์ อันดูดดื่มแห่งธรรมชาติ ทั้งสายน้ำ และแมกไม้ อันฉ่ำชื่นในผืนป่า ประดับประดาด้วยภาพสนธยา สายัณห์ อันสงบงาม ภาพเหล่าสมณะ ชีพราหมณ์ สีเหลืองอร่าม ปะปนด้วยสีขาว นั่งเพียรเพ่งบนหลังเขาตุงคะวารี ทัศนียภาพเช่นนี้ ถ้าหากจะเกิดมีขึ้นมาได้จริงๆ ก็คงจะเป็นการสร้าง “วิมานมนุษย์ แห่งพุทธธรรม” โดยแท้